ปลาคาร์ฟ (Koi)

ข้อมูลทั่วไป

ปลาคาร์ฟนั้นเป็นปลาที่มีอายุยืนซึ่ง 20 ปีถือเป็นเรื่องธรรมดา และเคยมีการว่ากันว่าที่ญี่ปุ่นมีปลาคาร์ฟที่มีอายุกว่า 100 ปีที่ญี่ปุ่นเชื่อกันว่าการเลี้ยงปลาคาร์ฟจะนำพามาด้วยโชคลาภ ความมั่งคั่ง และสุขภาพที่ดให้ีกับเจ้าของ ปลาคาร์ฟนั้นเป็นปลาที่ทนหากถูกเลี้ยงอยู่ในบ่อมีการกรองและคุณภาพน้ำที่ดี ส่วนขนาดตัวของปลาคาร์ฟนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่าง อย่างเช่นขนาดของบ่อ คุณภาพน้ำ คุณภาพการกรองน้ำ แต่โดยทั่วไปแล้วปลาคาร์ฟตัวเมียจะตัวใหญ่กว่าจึงทำให้มีราคาที่สูง และเป็นที่หมายปองของคนเลี้ยงปลาคาร์ฟ

 

การให้คะแนนปลา/การเลือกปลา

1.ดูที่ตัวปลา

การดูปลาคาร์ฟนั้นตัวปลาเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ปลาจะต้องไม่มี ความพิกรพิการ เช่นครีบด้วนหรือหลังงอเป็นต้นและต้องไม่มีโรค หัวต้องไม่สั้นหรือยาวจนเกินไปเมื่อเทียบกับตัวปลาสังเกตุได้จากที่จานเหงือกไปถึงตัวปลาต้องเีรียบ หากเรียบก็แปลว่าได้สัดส่วนและหัวต้องไม่เอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง ตัวของมันควรมีลักศณะตัวหนาและส่วนใหญ่จะเป็นตัวเมีย เพราะตัวเมียจะมีลำตัวที่หนากว่า จะเป็นที่ต้องการของนักเลี้ยงปลาคาร์ฟโดยเฉพาะในการแข่งมากกว่าตัวผู้ ปลาคาร์ฟที่สวยดูรวมๆแล้วจะเหมือนตอปิโด ไหลกว้างตรง่และค่อยๆเล็กลงทั้งฝั่งหัวและหาง ถ้าเป็นส่วนครีบก็ต้องไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไปเมื่อเทียบกับขนาดของปลาตัวนั้นๆ ขนาดและรูปทรงของครีบทั้งสองข้างต้องเท่ากัน โดยรวมๆแล้วเมื่อมองดูจากด้านบนปลาจะต้องบาลาน (ดูเหมือนง่ายแต่ว่ายากเลยทีเดียว เพราะมันเป็นศิลปะอีกแขนงนึงเลยทีเดียว)


2. สีสันบนตัวปลา

ความสำคัญอันดับสองของการเลือกปลาคาร์ฟก้คือสี ควรมองหาความเข้นข้นและความสะอาดหมดจดของสีที่มีในปลาคาร์ฟ ไม่ว่าปลาจะมีสีขาวล้วน ดำล้วน หรือว่าหลากหลายสี ผิวปลาจะต้องไม่มีรอยแผลเป็นหรือจุดด่างดำ ขอบสีต้องคมแบ่งแยกอย่างชัดเจน ขอบต้องไม่มีการเปลี่ยนของสีเช่นสีดำแต่ขอบมีสีแดงแลบออกมา แต่สำคัญคือสีที่เด่นๆอย่างเช่นสีแดงต้องแดงสด ดำต้องดำสนิทยิ่งดำยิ่งดี หากเป็นสีขาวก็ต้องขาวสว่างบริสุท ไม่ใช่ขาวขุ่น หากเป็นสีสะท้อนก็ต้องเป็นประกายและดูสะอาด


3. ลาย

ข้อที่สามในการเลือกปลาคาร์ฟก็คือลวดลายบนตัวของมัน ลวดลายบนตัวปลาต้องบาล้านไม่มีลวดลายเยอะไปข้างใดข้างหนึ่งเช่นที่หัวหรือหาง ลวดลายจะต้องเหมาะสม ไม่ใช่ว่าลวดลายเล็กในปลาใหญ่ หรือลายที่ใหญ่ในปลาตัวเล็ก

การดูปลาคาร์ฟที่ดีนั้นจะต้องดูปลาตัวนั้นแบบรวมๆ ดูว่าเข้ากันได้ไม่ว่าจะเป็นหุ่นสีหรือลวดลายจะต้องสอดคล้องและลงตัว การที่จะตัดสินว่าตัวไหนสวยหรือไม่จึงเป็นเรื่องที่ยาก แต่เค้าก็จะมีสแตนดาดที่เป็นเกณที่รู้กันโดยทั่วไปว่าปลาตัวไหนผ่านหรือไม่ผ่าน การดูปลาคาร์ฟนั้นจึงเรียกขานจากชาวญี่ปุ่นว่าเป็นศิลปะอย่างนึงเลยทีเดียว

ทำให้ยากขึ้นไปอีกหนึ่งขั้นปลาคาร์ฟที่มีลวดลายที่ซับซ้อนจะได้เปรียบในการให้คะแนน เหตุผลง่ายๆเพราะ ลวดลายที่ซับซ้อนจะทำให้การบาล้านของลวดลายยากขึ้นอีกหลายเท่าตัว ยกตัวอย่างเช่น โคฮาคุ แบบสามขั้นก็จะได้เปรียบโคฮาคุแบบสองขั้น

และหากโชคดี ระหว่างที่มองหาซื้อปลาคุณอาจจะเจอกับปลาคาร์ฟที่ทุกคนกำลังตามหานั่นคือ อินอะซูมะ ซึ่งดูง่ายๆก็คือลายสายฟ้าบนตัวโคฮาคุ (ลายแดงสดที่ซิกแซกจากหัวจรดหางบนตัวขาว)


4. ความสง่างาม

นอกจากสามข้อที่แล้วมา ก็ยังมีอีกข้อนึงที่ถือว่าสำคัญไม่แพ้กันเลยนั่นก็คือความสง่างาม ดูโดยรวมแล้วเค้าจะต้องเป็นศิลปะที่มีชีวิต แหวกว่ายอย่างสวยงามและสง่างาม

 

โคฮาคุ Kohaku (ตัวขาว ลายแดง)

ว่ากันว่าผู้เลี้ยงส่วนใหญ่เริ่มต้นและลงท้ายด้วยการเลี้ยงโคฮาคุ ลายแดงสดที่อยู่บนลำตัวที่ขาวบริสุททำให้เกิดการตัดของทั้งสองสีได้อย่างสวยงาม จุดเด่นของโคฮาคุคือสีแดงสดที่โดนจัดวางโดยธรรมชาติอย่างลงตัวบนสีขาวที่บริสุท แต่สิ่งที่ควรระวังคือผิวของปลาจะต้องไม่มีจุดด่าง

ตระกูลโคฮาคุนั้นมีลายอยู่เป็นพันลายแต่ลายที่รู้จักกันดีได้แก่

1. โอโมโย่ะ: ลายใหญ่ ไม่มีขาด ตลอดตั้งแต่หัว จรดหาง

2. นิดัน: มีลายสีแดงสองขั้น ซานดัน: มีลายแดงถึงสามขั้น

ยอนดัน: มีลายแดงทั้งหมดสี่ขั้น (อย่างเช่นในภาพ) และิ โกดัน: ลายแดงห้าขั้น

3. คูชิเบนิ: ลิปสติก มีสีแดงที่ปาก

 

โดยทั่วไปแล้วปลาคาร์ฟตัวผู้เริ่มลายแดงเมื่อมีอายุหนึ่งถึงสองขวบและค่อยๆหายไป ในขณะที่ตัวเมียนั้นเริ่มลายแดงช้ากว่าแต่จะแดงสดกว่าและสีจะไปหายไปไม่เร็วเท่ากับตัวผู้ ทำให้มันเป็นที่หมายปองของผู้เลี้ยง

ตันโจ Tancho (ตัวขาว จุดแดงที่หัว)

จุดเด่นของตันโจคือจุดแดงตรงกลางหัวบนผิวที่ขาวบริสุท คนญี่ปุ่นรักตันโจ (โคฮาคุ) ดั่งในภาพบน เป็นพิเศษเพราะมันเหมือนศัญยลักธงชาติญี่ปุ่น

ตันโจนั้นไม่ได้มีเพียงตันโจโคฮาคุเพียงสายเดียว แต่ยังมี ตันโจซานเกะ(ภาพล่าง) ตันโจโชวะ หรือแม่แต่ตันโจโกชิกิ แต่ตันโจโคฮาคุ (ภาพบน) ก็เป็นสายพันธุ์ที่ผู้เลี้ยงอยากได้มาครอบครองมากที่สุดในสายตันโจ

เวลาหาตันโจมองหาตัวที่มีจุดแดงที่เท่ากันไม่ว่าจะเป็นทรงเพชร ทรงไข่ ทรงแปดเหลี่ยม ทรงกลม หรือทรงหัวใจ หากปลาตัวนั้นๆมีจุดแดงที่เท่ากันทุกด้านและสีที่แดงสดบนสีขาวบริสุทละ ก็เตรียมตัวกระเป๋าได้เลย นอกจากนี้ก็อย่าลืมดูที่ทรงของตัวปลาซึ่งเป็นจุดที่สำคัญมากไม่ที่ีสุด มากกว่าสีสันหรือลวยลาดซะด้วยซ้ำ

 

อาซากิ Asaki (เกร็ดน้ำเงิน ท้องสีขาวแดง)

อาซากิเป็นสายพันธุ์ที่เก่าแก่ของนิชิกิกอย หลังเป็นเกร็ดสีน้ำเงิน ลงไปจากนั้นก็จะเป็นสีขาวที่คั่นกลาง ตามด้วยมีส้มจัดหรือแดงทั้งสองข้างของหัว ลำตัว ท้อง และหาง แต่ที่สำคัญต้องไม่มีจุดด่างไดๆ

โชวะ Showa (ตัวสีดำ ลายแดงและขาว)

โชวะจะมีสีดำเป็นพื้น ส่วนสีขาวและแดงเป็นลาย ดำจึงเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดในโชวะ ดำในที่นี้แปลว่าดำสนิท ยิ่งดำมากเท่าไหร่ก็ิ่ยิ่งสวย หากเป็นโชวะที่โดดเด่นด้วยสีแดงก็จะเรียกว่า ไฮโชวะ แต่หากเป็นโชวะที่โดดเด่นด้วยสีขาวก็จะเรียกว่า คินได โชวะ

ชูซุย Shusui (เกร็ดน้ำเงิน ท้องส้ม)

ผสมข้ามมาจากโดอิซูกอยกับอาซากิ ชูซุยมีเกร็ดใหญสีเทาน้ำเงิืนเป็นแนวอยู่ที่สันหลังและส้มแก่หรือแดงที่ท้องเหมือนอาซากิ และสีขาวคั่นกลางระหว่างเกร็ดเทาน้ำเงิืนและสีแดง


อัตซูริโมโน Utsurimono (ตัวสีดำ ลายขาว เหลืองหรือแดง)

ในสายพันธุ์อูซุริโมโนมีด้วยกันสามสี

1. ชิโร อุซูริ (ขาวดำ)

2. ไฮ อุซูริ (แดงดำ)

3. กิ อุซูริ (เหลืองดำ)

ทั้งสามสีนั้นมีสีดำเป็นฐานและสีต่างๆนั้นเป็นลาย เพราอูซูริโมโนนั้นเทียบเท่ากับปลาคาร์ฟดำ สีดำจึงเป็นสีที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องมีสีดำเยอะแต่อยู่ที่ความดำของสีดำ

ฮิคาริมูจิ Hikarimuji (เกร็ดสีเมทาลิก)

ฮิคาริมูจิหรือเรียกสั้นๆว่าออกอน มีเกร็ดที่เป็นสีเมทาลิก ู่2สายพันธุ์ที่รู้จักกันดี

1. แพทตีนั่มออกอน

มีเกร็ดสีเงิน

 

2. ยามาบูกิ ออกอน

มีเกร็ดสเหลืองมาเทลลิกหรือทอง

 

สินค้าสัตว์เลี้ยง
สัตว์เลี้ยงฝากขาย